ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของกล้องติดรถยนต์ Lukas เพื่อให้ทำการจัดทำรีวิวกล้องติดรถยนต์ Lukas LK-7950 WD
ซึ่งยังไม่ออกวางจำหน่ายในหน้า Lukas ภาษาอังกฤษเลย
กล้องติดรถรุ่นนี้ รองรับ Wi-Fi และ Full HD ทั้งหน้าและหลังด้วยนะครับ
สำหรับ Lukas รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ทำกล้องติดรถแบบมี Wi-Fi ขึ้นมา เดี๋ยวมาทดสอบกันครับ แต่รับรองไม่ผิดหวัง พูดเลย
สเปคกล้องติดรถ Lukas LK-7950 WD
- เซ็นเซอร์ & ความละเอียด กล้อง
- กล้องหน้า 2.1 M Sony sensor Full HD 1080P@30fps
- กลังหลัง 2.1 M Sony sensor Full HD 1080P@24fps
องศากล้อง - องศากล้องหน้า 135องศา
- องศากล้องหลัง 130องศา
- Wi-Fi รองรับ 802.11b/g/n (2.4~2.4835 GHz)
- ไฟล์วิดีโอ = .AVI
- G-sensor = รองรับ
- GPS = รองรับ Built-In Dual Band(GPS+Glonass)
- บันทึกเสียง = รองรับ
- เสียงแจ้งสถานะ = รองรับ 20 ภาษาทั่วโลก รวมภาษาไทย
- CPL = รองรับเลนส์ตัดแสงสะท้อน 37mm.
หน่วยความจำรองรับ 2 Slot - SD Card : SDHC / SDXC รองรับสุด 256GB
- Micro sd card : Micro SDHC / Micro SDXC รองรับสุด 256GB
- โปรแกรมดูย้อนหลัง = Lukas viewer และดูได้จากโปรแกรมมีเดียทั่วไป
- ระบบวัดแรงดันแบตเตอรี่และตั้งเวลาในตัว
- ใช้ไฟ DC 10V~24V 370mA
- อุณหภูมิสำหรับการทำงานปรกติ -30 องศา ~ 80 องศา
- กล้องหน้า Lukas LK-79350 WD
- กล้องหลัง Lukas LK-79350 WD
- UV Filter
- หน่วยความจำ
- SD card และ Micro sd card ของ Lukas
- สายไฟ DC แบบเปลือยสำหรับต่อตรง
- สายต่อกล้องหน้าและหลัง Lukas
- ขายึดกล้องหน้า 2 อัน
- คู่มือการใช้งาน
- เคเบิ้ลคลิป กาวสองหน้าสำหรับติดขายึดกล้องหน้าและกล้องหลัง
- 6เหลื่ยมสำหรับยึดกล้องหน้าอุปกรณ์ต่างๆ
เมม 2 อัน เป็น SD Card และ Micro Sd Cardคู่มือ (บางรูปยืมมาจากรีวิว Lukas LK-9300 DUO นะครับ)
ชุดสายไฟกล้องหน้าและหลัง
ขายึด มีมาให้ 2 แบบ
สายไฟต่อเข้ากล้องและกล่องฟิล์ว
ตัวกล้อง
กล้องหน้า ครับ
ด้านหลัง
มีปุ่มหลังเครื่อง
มี 2 ปุ่ม Emergency และ Mute พร้อมหน้าจอแสดงผล Digital
ด้านล่าง
อีกมุมเป็นช่อง USB ของ Wi-Fi Doggle ครับ
ด้านข้าง
สวิทย์เปิดปิด ตัวเครื่อง
อีกด้านหนึ่งเป็นที่ใส่ หน่วยความจำ สามารถใส่ได้สูงสุด 512GB
GPS ของกล้องเป็น Mount ติดกระจกในตัว
กล้องหลังด้านหน้า
ด้านข้างเป็นช่องต่อสายสัญญาณไปกล้องหน้า
การบันทึก
กล้องรุ่นนี้สามารถใส่หน่วยความจำได้ 2 Slot
ตัว SD Card ใช้บันทึกสำหรับ Always mode, Motion mode, Drive information และ ค่า Config ตัวเครื่อง
Always mode = การบันทึกปรกติ
Motion mode = ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว
ส่วน Micro SD Card ใช้บันทึกในส่วนของ Event mode โดยเฉพาะ
Event mode = การบันทึกเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นที่ตัวกล้องวัดการสั่นสะเทือนผ่าน G-Sensor
หน่วยความจำรองรับการทำงานถึง 512GB 256GB x 256GB
โดยหากใช้งานตามที่สเปคกำหนดจะบันทึกยาวนานถึง 36.48 ชม. ในโหมดการบันทึกปรกติ (Always mode)
และโหมดตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motione mode) 30.16 ชม.
ไม่รวม Event mode ที่บันทึกใน Micro Sdcard เต็มๆ 1 Slot
ระยะเวลาการบันทึกของแต่ละโหมดการบันทึก
Always mode = การบันทึกไฟล์ละ 3 และ 5 นาที ค่าโรงงานตั้งไว้ 3 นาที
Motion mode = การบันทึกไฟล์ละ 30 วินาที ก่อนการเกิด Motion 10 วิ และหลัง 20 วินาที
Event mode = การบันทึกไฟล์ละ 30 วินาที ก่อนการเกิด Motion 10 วิ และหลัง 20 วินาที
โหมดตรวจจับการเคลื่อนไหวของ Lukas LK-7950 WD สามารถกำหนดพื้นที่ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวได้
การบันทึกในโหมดตรวจจับการเคลื่อนไหสแยกหน้าและหลัง คือ
เมื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ที่กล้องใด บันทึกเฉพาะกล้องนั้นเท่านั้น ไม่บันทึกทั้งคู่
ระบบ Wi-Fi
Lukas LK-7950 WD เป็นรุ่นแรกที่ทำ Wi-Fi ออกมา มี App รองรับทั้ง Android และ iOS
การเชื่อมต่อกล้องกับมือถือสมาร์ทโฟนผ่าน App
หลังจากดาวน์โหลด App ของ Lukas ที่ Play Store และ App Store
สำหรับ iOS
เปิด Wi-Fi และทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ชื่อ LUKAS แล้วกรอกรหัสผ่าน 8 หลักคือ “11111111”
หลังจากเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วให้เข้าไปที่ App Lukas ได้ทันที
การใช้งาน App Lukas
App ของ Lukas นั้นไม่สามารถดูแบบเรียวไทม์ได้เหมือนกล้องติดรถยนต์
ที่มีระบบ Wi-Fi ที่เคยรีวิวมา ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะมีมั้ย
การทำงานของ App ของ Lukas
เมื่อเชื่อมต่อกับกล้องได้แล้วและเข้าใช้งานกล้องในโหมดต่างๆสามารถใช้งานได้ทันทีและกล้องไม่มีการหยุดการบันทึก
ยกเว้นเมนู Setting เท่านั้น
ฉะนั้นเราสามารถดูย้อนหลังและบันทึกลงมาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนได้ทันที
ในขณะที่กล้องยังบันทึกไปตามปรกติ
ระยะของ Wi-Fi สามารถทำได้ไกลกว่า 20 เมตรในพื้นที่โล่ง
ทดสอบจากการนำรถเข้าบริการล้างรถและผมเข้ามานั่งรอในห้องรับรองลูกค้าที่เป็นห้องกระจกสัญญาณ Wi-Fi
แกว่งขึ้นบ้าง ลดลงบ้าง แต่สามารถดูภาพได้ลื่นไหลครับ
สำหรับ Android
ขออภัยไม่มีอุปกรณ์ในการทดสอบครับ
โปรแกรมสำหรับ PC
หน้าตาการตั้งค่าต่างๆครับ
ความร้อน
ใช้งานขณะขับรถและใช้งานโหมดจอดรถอุณหภูมิไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ
ขณะใช้งานปรกติ
ขณะจอดรถใช้งานโหมดจอดรถ ลานจอดในห้าง
การใช้งานทดสอบขณะจอดตากแดดจัด
ช่วงเวลา 09:00 – 12:00 โดยประมาณ สถานที่จอดรถลานจอดไม่มีหลังคา
อุณหภูมิดูสูงแต่ยังอยู่ในสเปคที่กำหนดครับ
หากต้องการใช้งานโหมดจอดรถในสถานที่โล่งตากแดดเปรี้ยงๆแบบนี้แนะนำเฉพาะบางครั้งนะครับ เช่น ที่จอดรถเปลี่ยว ริมถนนที่รถสัญจรเยอะอาจเกิดอุบัติเหตุแบบนี้เป็นต้น ถึงแม้กล้องมีระบบตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิการทำงานขณะตากแดดบ่อยๆ
ก็ทำให้อายุการใช้งานของกล้องน้อยลงได้ครับ
คลิปทดสอบครับผม
คลิปทดสอบฟิล์ม 40% หน้า และ 60% หลังครับ
กล้องหน้า ช่วงเช้า
แต่สามารถมองเห็นได้ในฟิล์ม 80% ฉะนั้นถ้ารถฟิล์มบางกว่านี้ยิ้มได้เลยครับAlways mode บันทึกปรกติ
กล้องหน้า กลางวัน
กล้องหลัง กลางวัน
กล้องหน้า กลางคืน
กล้องหลัง กลางคืน
Event mode
กล้องหน้า
กล้องหลัง
Motion mode
กล้องหน้า กลางวัน
กล้องหลัง กลางวัน
ราคาตอนนี้ราคาจากตัวแทนจำหน่ายยังไม่ออกนะครับ
รุ่นนี้ผมได้มาเพื่อทำการรีวิวโดยเฉพาะครับ