สวัสดีครับผม หายกันไปนานมากเลยครับสำหรับ รีวิวกล้องติดรถยนต์
วันนี้มีอีก 1 รีวิว กล้องติดรถยนต์ ในปี 2558 รีวิวแรกจากผู้นำเข้า Lukas อีก 1 รุ่นครับ
ปลายปีที่ผ่าน กล้องติดรถยนต์เกาหลี หน้าหลังตบเท้าออกมากันเยอะมาก
ชนิดที่ว่าไม่รู้จะเลือกอะไรกันเลย โดยเฉพาะ Lukas ออกมาแทบจะทีเดียวพร้อมกัน 3 รุ่นกันเลย
สำหรับกล้องหน้าหลังพร้อมหน้าจอทัชสกรีน
ไม่ว่าจะเป็น
Lukas LK-9300DUO ที่จะรีวิวกันในรีวิวนี้
Lukas LK-9500
Lukas LK-9700Lukas LK-9300DUO มี 2 Type คือ Type B และ Type D
ที่จะรีวิวกันในรีวิวนี้คือ Lukas LK-9300DUO Type Bสเปค หลักๆ Lukas LK-9300DUO
- กล้องหน้า Full HD 1080P@30FPS 2.4 ล้าน Sony IMX322 Sensor
- กล้องหลัง HD 720P@30FPS
- องศากล้องหน้าและหลัง 135 องศา
- หน้าจอทัชสรีน 3.5”
- สลับการทำงานหน้าจอได้
- ใส่หน่วยความจำได้สูงสุด 512GB 2 Slot
- 1 SD Card บันทึก Always mode
- 1 Micro SD card บันทึก Event
- รองรับฟิวเตอร์ตัดแสงสะท้อนขนาด 37มิล
- รองรับระบบวัดแรงดันแบตเตอรี่และตัดการทำงานกล้องอัตโนมัติ
- ไฟแสถงสถานะสีน้ำเงิน
- รองรับการบันทึกเสียง
- รองรับ GPS
- รองรับการแสดงข้อมูลการขับรถ
- รองรับ ODB II
- รองรับเสียงแจ้งสถานะกล้อง 21 ภาษา รวมภาษาไทย
เอาละเดี๋ยวมาชำแหละหาสิ่งประทับใจกันครับ
เปิดกล่อง
อุปกรณ์ในกล่อง
- กล้องติดรถ Lulas รุ่น LK-9300DUO หน้า 1 ตัว
- กล้องติดรถ Lulas รุ่น LK-9300DUO หลัง 1 ตัว
- ชุดต่อตรง กล่องติดหน้ารถ 1 ชุด (หรือต่อที่จุดบุหรี่ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- ชุดต่อสายกล้องหน้าและหลัง 1 เส้น
- Mount ติดกระจก 2 อัน
- UV ฟิวเตอร์ 1 อัน
- ปากกาทัชหน้าจอ หรือไม่จิ้มฟัน 1 อัน
- หน่วยความจำ 2 อัน
- SD Card 1 และ Micro SDcard 1
- คู่มือ 1 เล่ม
- ใบรับประกัน 1 ปี ของผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ดูอุปกรณ์หลักกันก่อนครับ
ชุดต่อเข้ากับ Fuse Box ของรถครับสายต่อกล้อง และ หลัง
ด้านหัวเชื่อมต่อกล้องหน้ามีลักษณะงอเล็กน้อยรับกับกระจก
ขายึดกล้องมีให้ 2 อันครับเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง
SD Card 8GB Micro SD Card 8GB
และกาวสองหน้าสำหรับยึด Mount เข้ากับกระจกตัวกล้องหน้าครับ
ตัวกล้องดำด้านตามแบบฉบับของ Lukasด้านข้าง เป็นสวิทย์เปิด ปิด OFF , ACและON ปุ่มเปิดปิดเสียงที่เคยเห็นในกล้องหน้าหายไปแล้ว
เมื่อต่อตรงแล้วสามารถเลือกใช้งานกล้องได้ 2 แบบคือทำงานผ่าน AC คือหลังจากดับเครื่องกล้องดับด้วย
หรือเลือก ON กล้องจะทำงานตามแรงดันที่เรากำหนดเอาไว้
และ OFF ปิดไปเลยอีกด้านเป็นปุ่ม Emergency
ด้านหลังไม่มีปุ่มใดๆ มีหน้าจอ ทัช 3.5 นิ้ว
ด้านบนเป็น GPS พร้อมฐานยึดเข้ากับ Mount ที่ติดกับกระจก
ด้านหนึ่งสำหรับต่อ Port OBD ll อีกด้านหนึ่งต่อ GPS และ Power
ขนาดตัวเครื่อง
การติดตั้งกล้องติดรถยนต์หน้าหลัง
เลือกติดตั้งได้ 2 แบบด้วยกันคือ
1 ต่อตรงตามอุปกรณ์ที่มีมาให้ในชุดสายไฟทั้งหมดสามเส้น
สีแดง จ่อเข้ากับ ACC หรือฟิวล์อะไรก็ได้ที่ทำงานผ่านสวิทย์กุญแจ
เช่นฟิวส์ที่จุดบุหรี่ เป็นต้น แต่มีรถบางรุ่น ที่มีไฟจ่ายอยู่แม้ดับเครื่องไฟแล้วก็ตามสีเหลือง ต่อเข้ากับ BATT หรือฟิวล์อะไรก็ได้ที่มีไฟจ่ายตลอดไม่ผ่านสวิทย์ หรือฟิวล์สำรองไว้ไม่ได้ใช้งานดูได้จากคู่มือรถของคุณเอง
เช่น ฟิวส์ไฟฉุกเฉิน วิทยุ ฯลฯ หาเอาครับ หรือฟิวล์สำรองไว้ไม่ได้ใช้งานดูได้จากคู่มือรถของคุณเองสีดำ GND หรือกราวน์ครับ ต่อเข้ากับตัวถังรถเลยครับ หรือหาหัวน๊อตที่จั้มกราวน์รวมของรถได้ยิ่งดี จะได้เป็นระบเบียบ
สำหรับแผงฟิวล์หากดูตามคู่มือเป็นการเอาสายไฟไปพันๆเอา ซึ่งจะใช้งานได้ดีกับฟิวล์รุ่นเก่า
ส่วนใหญ่ปัจจุบันจะใช้เป็น Micro fuse กันเกือบหมดทำให้พันสายไฟไม่ได้
ผมใช้ตัวช่วยครับซื้อได้ที่นี่
http://store.thaiblackbox.com/product/micro-fuse-tab/เสร็จแล้วก็ออกมาแบบนี้
การติดตั้งแบบนี้สามารถใช้งานระบบวัดแรงดันแบตเตอรี่ได้ (ดูในส่วนของการตั้งค่ากล้อง)
2 การติดตั้งแบบต่อที่จุดบุหรี่ธรรมดา
สามารถทำได้โดยซื้ออุปกรณ์เสริมที่เป็นตัวจุดบุหรี่ต่อแทนชุดเข้าระบบแบบเปลือยตามข้อแรก
การติดตั้งเหมือนการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ทั่วไปคือต่อเข้าที่จุดบุหรี่ทั่วไป
หากต้องการใช้โหมดจอดรถ สามารถทำได้โดยปิดการใช้งานระบบวัดแรงดันแบตเตอรี่
เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วได้ประมาณนี้ครับ
กล้องหน้ากล้องหน้านอกรถ
กล้องหลัง
กล้องหลังนอกรถ
เริ่มทำงานครั้งแรก
เสียงเมื่อเครื่องเริ่มทำงานครั้งแรกเป็นภาษาไทยมาเลย ได้ยินครั้งแรกแอบอมยิ้มเล็กๆครับเสียงแจ้งการทำงานของกล้องติดรถ Lukas จะมีภาษาไทยร่วมอยู่ด้วยแล้วหลังจากนี้เนื่องจาก
ทาง AUPA69 ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากทาง Lukas ได้ดำเนินการแปลภาษาส่งให้กับ
ทาง Lukas โดยตรงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้กล้อง Lukas ในประเทศไทยหน่วยความจำ รองระบสูงสุด 512GB!!!! ใช้แล้วครับ
อ่านไม่ผิด รองรับการใส่เมมใด้ 2 ช่อง ช่องละ 256GB
รวม 512GB สูงสุด ณ ขณะนี้
เมม 256GB ราคาตลาดนี่ซื้อกล้องหน้ารถได้อีกตัว
เดาว่าอนาคตอันใกล้ถ้าจะมีกล้องติดรถยนต์ FullHD
บันทึกลง HDD หรือกล่อง DVR คิดว่า Lukas น่าจะเป็นแบรนด์แรกๆที่ผมนึกถึงหน้าจอทัชสกรีน
หน้าจอทัชสกรีนเป็นแบบ TFT UI เหมือน Windows8 ดูแล้วทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
หน้าการตั้งค่าคร่าวๆผ่านหน้าจอ
เมนูการตั้งค่าหน้าจอหลัก
เมื่อกดรูป icon รูปบ้านมุมบนซ้ายจะเข้าสู่หน้าการตั้งค่าหลักก่อนเข้าสู่เมนูการตั้งค่าย่อยของตัวเครื่อง
หน้าการตั้งค่าหลักประกอบไปด้วย- Playback ดูย้อนหลัง
- Real-Time กลับเข้าการบันทึกปรกติ
- Setting ตั้งค่าตัวเครื่อง
- Time ตั้งค่าเวลา
- Format ฟอแมตหน่วยความจำ
- OBD ll ใช้ร่วมกับ LK-750 ODBll Module ในรีวิวไม่มีนะครับเป็นการใช้งานร่วมกับกล่อง ECU ในรถยนต์
หน้า Setting เข้าไปจะพบเมนูย่อย
- Video การตั้งค่าความละเอียดการบันทึกของกล้องหน้าและหลัง
- Basic
- LCD Config.
- Additional
- Audio
- OBD
การทำงานในโหมดต่างๆและการบันทึกลง SD Card แต่ละ Slot
การทำงานของ Mode ต่างๆในกล้องรุ่นนี้จะแยกการบันทึกลง SD Card และ Micro SD Card
สำหรับ SD Card จะบันทึกAlway Mode = บันทึกตามปรกติ
Event Mode = บันทึกเมื่อมีเกิดแรง G (เบรค,ตกหลุม ฯลฯ)
Motion detect Mode = บันทึกเมื่อมีอะไรเคลื่อนไหวผ่านกล้อง หรือ เกิดอะไรขึ้นกับตัวรถเช่น โดนชนMotion detect Mode
เมื่อเข้าสู่ Praking Mode กล้องจะยังทำงานแต่ไม่บันทึกลง SD Card
การบันทึกลง SD Card จะเกิดขึ้นเมื่อมีความเหลื่อนไหวผ่านกล้องเกิดขึ้น (Motion Detect) เป็นเวลา 30 วิ
การเคลื่อนไหวจะอยุ่ในช่วงวินาทีที่ 10 ของช่วงเวลาที่บันทึกไว้ แล้วบันทึกต่อไปอีก 20 วิ ก่อนจะจับความเคลื่อนไหวอื่นๆต่อได้อีกฟังชั่นนี้ทำงานได้ดีและช่วยประหยัดพื้นที่ของ SD Card ได้มากระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว Motion Detection
ขอบอกว่ามีอะไรให้เล่นอีกแล้วสำหรับโหมดนี้ เหลาซะหน่อยปรกติที่เคยเห็นรีวิวมาเราจะทราบแต่ว่าถ้ากล้องติดรถยนต์ที่มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจะบันทึกต่อเมื่อกล้องตรวจจับได้แล้วจะเริ่มบันทึก โดยย้อนหลังให้ 10 วิ อะไรว่าไป
สำหรับ lk-9300 เพิ่มฟีเจอร์ระบุพื้นที่ในการตรวจจับความเคลื่อนไหวเข้ามาให้โดยกำหนดพื้นที่ที่กล้องจะเริ่มทำงานได้ตามภาพหลายคนใช้โหมดตรวจจับความเคลื่อนไหวพอมาดูย้แนหลังปรากฎว่ามีแต่ภาพหุ่นดุกดิกหน้าคอนโทรลรถตัวเอง – -“
หลังจากขับรถอีกครั้งกล้องจะออกจากโหมด Motion และสรุปให้ดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่กล้องทำงานตอนที่เราไม่ได้อยู่ในรถ
แยกชัดเจนว่า Motion ตรวจจับได้เท่าไหร่ Event ตรวจจับได้เท่าไหร่
โดยในส่วนของ Event จะมีแถบด้านล่างแสดงสถานะว่าเกิดช่วงใดบ้าง
หากเกิดตอน Start และ Finish เดาไว้ก่อนเลยว่าเป็นตอนจอดรถแล้วกลับเข้ามาที่รถอีกครั้ง
แต่ถ้าเกิดระหว่างกลาง สำรวจรถและดูย้อนหลังได้เลยครับ
สำหรับ Micro SD Card จะบันทึก
Event Mode
เมื่อเกิด Event Mode กล้องจะตัดช่วงเวลาที่เกิด Event ออกมา 30 วิ
Event จะเกิดขึ้นช่วงวินาทีที่ 10 แล้วบันทึกต่อไปอีก 20 วิ ก่อนกลับไปเข้า Alway Mode ตามปรกติอีกครั้งหากไม่ใส่จะไม่บันทึก Event ใดๆที่เกิดขึ้นเลย แต่การบันทึกทุกอย่างจะอยู่ครบทั้งหมดที่โฟเดอร์ Alway ไม่มีเวลาใดที่หายไป
*** ปรกติที่ผมเคยรีวิวกล้องติดรถยนต์เกาหลีทุกรุ่นจะเป็นการทำงานประมาณเมื่อเกิด Event ไฟล์ช่วงนั้นจะถูกแยกออกไป
แล้ว Event ช่วงนั้นจะหายไปในช่วงเวลาปรกติโปรแกรมวิวเวอร์
ปัจจุบัน Lukas ออกโปรแกรมรอบรับการทำงานทั้ง Windows และ MAC OSX แล้วนะครับ
ในรีวิวผมขอทดสอบการใช้งานโปรแกรมดูย้อนหลังด้วยโปรแกรมใน MAC นะครับ
ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับสำหรับ Type B
http://www.lukashd.com/gnuboard4 … ng_viewer&wr_id=141หน้าต่อโปรแกรม
หน้าการตั้งค่าต่างๆของโปรแกรมครับ
หน้า Information
แสดงรายละเอียดการขับรถขณะนั้นสามารถ Export ออกมาเป็นไฟล์ csv เพื่อเปิดดูใน excel ได้
แสดงข้อมูลการใช้งานได้ละเอียดมากความร้อน
การทดสอบความร้อนขณะการใช้งานอุณหภูมิขณะขับรถปรกติ และขณะใช้โหมดจอดรถ อยู่ที่ประมาณ 38-40 องศา เท่ากัน
สถานที่ทดสอบการใช้งานโหมดจอดรถเป็นที่จอดรถในห้าง ถือว่าทำได้ดีครับ ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าใช้งานขณะจอดรถความร้อนน่าจะสูงกว่านี้ต่อไปเป็นคลิปครับ
ชุดฟิล์มกล้องหน้า 60% หลัง 80% แบบรถยนต์เหมือนจะทั่วไป
กลางวัน
กล้องหน้า
กล้องหลัง
กลางคืน
กล้องหน้า
กล้องหลัง
Event Mode
Motion Mode
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
LUKAS LK-9300DUO ราคา 12,500
ผู้นำเข้าอย่าง้ป็นทางการในประเทศไทย APUA69
การรับประกันสินค้าเป็นไปตามมามาตรามฐานที่ระบุเงื่อนไขไว้ในใบรับประกันภายในประเทศ 1 ปีเต็ม
พบกันรีวิวหน้านะครับ