หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้รถยนต์เป็นประจำเพื่อออกไปทำงาน ทำธุระ หรืออื่นๆ การขับรถในเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างกรุงเทพมหานครคงเป็นอะไรที่น่าปวดหัวสุดๆ ด้วยการจราจรอันแสนคับคั่ง ยิ่งรถติดมากเท่าไหร่รถของคุณก็ยิ่งซดน้ำมันมากขึ้นเป็นเงาตามตัว จะดีกว่าแค่ไหนถ้าหากคุณสามารถรู้เทคนิคการขับรถที่ประหยัดน้ำมันแม้ต้องเจอสภาพการจราจรอันแสนสาหัสแบบนี้ ลองมาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรดีๆ บ้างที่จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเรื่องค่าน้ำมันรถได้
อย่าวอร์มเครื่องนานและค่อยๆ ออกตัวอย่างช้าๆ อย่ากดคันเร่งทันที
เริ่มต้นง่ายๆ จากการสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนเลย เมื่อคุณสตาร์ทเครื่องยนต์เป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่จำเป็นจะต้องเหยียบคันเร่งเพื่อวอร์มเครื่องอะไรกันมากมาย เพราะว่าเมื่อรถสตาร์ทเครื่องติดระบบต่างๆ ภายในรถก็หมุนเวียนเพื่อเตรียมออกตัวแล้ว และเมื่อคุณออกตัวก็ค่อยๆ เหยียบคันเร่งเพื่อไต่ระดับความเร็ว อย่าเหยียบกดแบบที่ต้องการให้รถพุ่งให้เร็วในทันที เพราะถ้าทำแบบนั้นรถคุณจะซดน้ำมันไปหลายบาทโดยไม่รู้ตัว
ขับรถในระดับความเร็วที่เหมาะสมหากเจอสภาพถนนโล่ง
แม้จะไม่ค่อยพบมากนักในกรุงเทพฯ แบบนี้แต่ถ้าหากช่วงไหนของถนนที่มีพื้นที่ให้คุณทำความเร็วได้อย่างเหมาะสม ก็ควรใช้ความเร็วในระดับเดียวกัน เพราะหากว่าคุณใช้ความเร็วสูงและเหยียบเบรกเพื่อต้องการให้รถหยุดหรือชะลอรถจากความเร็ว รถจะกินน้ำมันคุณจากระดับความเร็วที่ผันแปรอย่างรวดเร็วและทำให้น้ำมันหมดไวขึ้นด้วย
พยายามอย่าปลดเกียร์ว่างถ้าจังหวะรถติดๆ ไปๆ
การเปลี่ยนจากเกียร์ว่างมาเป็นเกียร์เดินรถจะทำให้คุณเปลืองน้ำมัน เพราะว่ากล่องควบคุมจะรู้ว่ารถเตรียมขับเคลื่อนทำให้ต้องดึงน้ำมันออกมาใช้ ทางที่ดีให้ปล่อยรถค่อยๆ ไหลไปเรื่อยและคอยแตะๆ เบรกเอาไว้จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีที่สุดในยามที่เจอสภาพรถติด
ศึกษาเส้นทางลัดที่รวดเร็วและหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากในการขับรถที่กรุงเทพฯ แต่สำหรับบางเส้นทางก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปได้ ก่อนออกจากต้นทางจึงควรศึกษาว่าเส้นทางไหนใกล้ รวดเร็ว และรถติดน้อยที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดได้ทั้งเวลาและน้ำมันด้วย
ไม่บรรทุกของหนักที่ไม่จำเป็น
การที่มีสัมภาระต่างๆ อยู่บนรถจะทำให้รถต้องใช้แรงในการขับเคลื่อนมากขึ้น นั่นหมายความว่าการใช้น้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย หากว่าสิ่งของชนิดใดไม่จำเป็นก็ให้เอาลงจากรถบ้างเพื่อช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกแรง
แม้ว่าการขับรถในกรุงเทพมหานครจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยน่าพิสมัยสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน มันจึงดีกว่าแน่นอนถ้าหากว่ารู้จักวิธีการปรับตัวให้อยู่กับมันให้ได้ อย่างน้อยๆ ที่สุดการหาวิธีในการช่วยประหยัดน้ำมันก็ทำให้คุณเอาเงินที่จะต้องเติมนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมาย
