“รถ” ถือเป็นสินทรัพย์ราคาแพงชนิดหนึ่ง เราจึงควรดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น วันนี้เราจึงมีเทคนิคดูแลรักษารถยนต์คันโปรดแบบง่ายๆ มาฝากกันดังนี้
อย่าเร่งเครื่องตอนสตาร์ทรถทันที
อย่าเร่งเครื่องตอนสตาร์ทรถทันที โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศข้างนอกเย็นจัด เนื่องจากจะทำให้เครื่องยนต์ของรถทำงานหนัก วิธีที่ถูกคือควรเร่งความเร็วรถยนต์หลังสตาร์ทรถไปแล้วประมาณสัก 10 – 20 นาที
เข้าเกียร์ว่างเสมอเมื่อจอดรถ
เวลาพักเครื่องยนต์ต้องการเลื่อนเกียร์ว่างให้อยู่ในตำแหน่งไฟสีแดงทุกครั้ง เพราะแม้เราจะไม่ได้ขับรถตัวเครื่องก็จะยังคงทำงานอยู่ ข้อนี้เป็นการช่วยถนอมเครื่องยนต์รถอีกทางหนึ่ง
ไม่บรรทุกเกินน้ำหนักมากเกินที่คู่มือระบุ
รถทุกชนิดไม่ควรใช้รถบรรทุกของที่มีปริมาณหรือนํ้าหนักมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการขนขึ้นที่ท้ายรถ ไว้บนเบาะ หรือมัดไว้บนหลังคาก็ตาม เพราะจะมีผลต่อตัวเครื่องและโช้คอัพ โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ควรจุไม่เกิน90กิโลกรัม
เช็คน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์
กรณีรถที่มีพวงมาลัยพาวเวอร์ ควรเช็กกระปุกเก็บน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ให้มีน้ำมันอยู่ในระดับพอดี และฝาปิดสนิทก่อนสตาร์ทเครื่องอยู่เสมอ มิเช่นนั้นเมื่อเจอความร้อนหลังเครื่องยนต์ทำงานอาจยิ่งเพิ่มความดันจนทำให้น้ำมันล้นออกมาได้
ความชื้นที่ฝังอยู่ภายในล้อ
ขณะที่เติมลมยางรถยนต์ทุกครั้งให้สังเกตดูสิว่ามีความชื้นออกมาจากตัวปั๊มลมด้วยรึเปล่า ถ้ามีต้องหยุดทันที เพราะหากมีความชื้นเข้าไปฝังตัวด้านในจะทำให้ยางและล้อเกิดความเสียหายได้
ขับไม่เกิน 80กม./ชม.ในช่วงรันอิน
ในช่วงรันอินที่ขับรถไปได้ 1,600 กิโลเมตรแรก พยายามจำกัดความเร็วของรถให้อยู่ต่ำกว่า80กิโลเมตรต่อชั่วโมงเอาไว้ หรือความเร็วตามที่แนะนำสำหรับรถแต่ละรุ่น
กุญแจรถก็สำคัญ
ไม่ควรพ่วงสิ่งของหนักๆไว้กับกุญแจรถ เพราะจพทำให้กุญแจรถหนักขึ้น บวกกับเวลาที่ขับแรงสั่นสะเทือนจะทำให้ช่องที่เสียบกุญแจรถหนักขึ้นจนชิ้นส่วนภายในสึกหรอ ทางที่ดีควรเป็นแค่สิ่งของเล็กๆ ไม่หนัก
สตาร์ทบ้างหากไม่ได้ใช้รถนานๆ
หากไม่ใช้รถ อย่าจอดรถทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่สตาร์ทเครื่องเลยนานเกินไปเนื่องจากจะทำให้เครื่องยนต์สึกกร่อนเสียหาย โดยเฉพาะในส่วนของแบตเตอรี่ที่ต้องถูกดึงไฟมาใช้อยู่เรื่อยๆ ดังนั้นแม้จะไม่ได้ใช้รถคุณก็คควรสตาร์ทรถวอร์มเครื่องอยู่อย่างสมํ่าเสมอ
สังเกตุและจดจำ
พยายามสังเกตหรือจดจำเอาไว้ว่าน้ำมันของคุณหมดไปเท่าไหร่ และวันนี้ขับไปเป็นระยะทางเท่าไหร่ หากน้ำมันปริมาณลดลงจนผิดสังเกตให้เอารถไปตรวจสอบทันที
รถติดหล่มขึ้นไม่ได้อย่าฝืน
ถ้ารถยนต์ประสบปัญหาติดอยู่ในหลุมโคลนขนาดใหญ่จนไม่สามารถขึ้นได้ ควรเรียกช่างมาช่วยยกแทนที่จะพยายามเร่งเครื่องให้หลุดออกมา เพราะจะมีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ได้